วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

พระชุดเบญจภาคี


พระชุดเบญจภาคี ประกอยด้วย 1.พระสมเด็จ วัดระฆัง 2.พระรอดกรุ วัดมหาวัน จ.ลำพูน 3.พระนางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก 4.พระ ผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี 5.พระกรุ ซุ้มกอ จ.กำแพงเพชร



1. พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ ลักษณะจากการพิจารณา ยุบ-เหี่ยว-ย้น-หนอนด้น-ลอยปูไต่ (สูตรการดูพระสมเด็จวัดระฆังแบบง่ายๆ..ๆ) ขั้นตอนต่อไปจะพิจารณากันอีกครั้ง


ยุบ = จากการพิจารณาทางวิทยาศาสตร์ เมื่อไอน้ำระเหยไป มวลสารต้องยุบลงลักษณะคล้ายดินตระกัง


เหี่ยว-ย้น = เมื่อไอน้ำระเหยออกมวสสารยุบผิวด้านบนคล้ายๆหนังช้างหรือผิวหนังคนแก่


หนอนด้น = ในเมื่อพระสมเด็จมีส่วนผสมเป็นเกสรดอกไม้ เมื่อเกสรดอกไม้ผุหรือยุบตัวลงจะทำให้เป็นโพรง คล้ายแมลงไซดินเหนียวตามขอบหนอง กลางทุ่งนา


ลอยปูไต่ = ไปดูรอยปูเดินตามทุ่งนา ขอบหนอง





2. พระรอดกรุ วัดมหาวัน จ.ลำพูน พระรอดองค์นี้เป็นพิมพ์กลางสีเขียวเป็นเนื้อดินเผาผสมว่าน (เนื้อว่านนุ่ม) เนื้อมีความนุ่มนวลละเอียดราวกับเนื้อสีผึ้ง มีว่านดอกมะขามมีลักษณะบางๆ คล้ายเป็นเยื่อสีแดงๆ(เนื้อดินเผาชนิดที่มีส่วนผสมแก่เนื้อว่านมากเป็นพิเศษความละเอียดจัดว่ามีมากที่สุด) ค่อนข่างหายากต้องมีคราบกรุ เพราะเป็นพระกรุความกว่างประมาณ 1.4 ชม.ส่วนสูงประมาณ 1.8 ชม.







3. พระนางพญาพิมพ์เข่าโค้ง วัดนางพญา จ.พิษณุโลก พระองค์นี้สีไม่เหมือนองค์ทั่วไปเป็นพระสองสีสันนิษฐานว่าเกิดจากการเผาไฟจึงทำให้เนื้อดินถูกความร้อนไม่เท่ากันสีจึงออกมาเป็นสีคล้ายหินครกเป็นพระที่หายากองค์หนึ่ง ใบหน้าเหนือนผลมะตูมเห็นสีของแร่หินสีชัดเจนเห็นคราบกรุเพราะเป็นพระกรุด้านข้างคล้ายรอยตอกตัด









4. พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ องค์นี้พิเศษตรงที่ ไม่ตัดปีกด้านข้างเนื้อละเอียดสีแดงผิวเป็นมันมีประกายฉำไส พระผงสุพรรณเป็นพระกรุจะต้องมีคราบกรุมีคราบดินสีนวลๆทุกองค์ ความสูงองค์พระประมาณ 2.6 ซม. ความกว้างประมาณ 1.4 ซม. สภาพสวย











พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีกนกข้าง จ.กำแพงเพชร พระองค์นี้ สีเขียวหายากด้านหลังเป็นลายกราบหมากมีคราบกรุ เพราะเป็นพระกรุ


พระเบญจภาคี ชุดที่นำเสนอนี้ เป็นพระที่หายากจริงๆ (สิ่งที่นำเสนอไปนี้ถ้าผิดพาดไปก็ขออภัยด้วยครับ เพราะเกิดไม่ทัน)



























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น